เทคนิคการเลือกชุดเครื่องเสียง ในราคาที่เหมาะสมกับการใช้งาน

ชวนรู้! ก่อนตัดสินใจซื้อชุดเครื่องเสียงต้องพิจารณาเรื่องใดบ้าง จึงจะได้ชุดเครื่องเสียงที่เหมาะกับเรา

สำหรับผู้ที่รักเสียงดนตรี ชอบการดูหนัง หรือฟังเพลง การมีชุดเครื่องเสียงมาตั้งไว้ที่บ้าน หรือในพื้นที่ข้างกายคงจะเป็นความใฝ่ฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะเสียงที่ออกมาจากชุดเครื่องเสียงนั้นจะมีมิติ และสามารถปรับแต่งได้กว้างกว่าการใช้งานตู้ลำโพงทั่ว ๆ ไป ซึ่งชุดเครื่องเสียงทำให้มิติของเสียงออกมาดีได้ไม่แพ้กับการไปฟังดนตรีสดในคอนเสิร์ต หรือการไปดูหนังในโรงภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ ทำให้การมีชุดเครื่องเสียงดี ๆ สักชุดนั้น จะช่วยเพิ่มอรรถรส และเสริมความสุนทรีย์ได้เป็นอย่างดี แต่ปัญหาที่ใครหลายคนพบคือ การจะได้ชุดเครื่องเสียงมาครบชุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะชุดเครื่องเสียงมีราคาค่อนข้างสูง และจำนวนอุปกรณ์ของเครื่องเสียงระดับเทพนั้นก็มีจำนวนไม่น้อย แม้ปัจจุบันราคาของชุดเครื่องเสียงจะจับต้องได้ง่ายมากขึ้น เพราะความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น และเทคโนโลยีการผลิตที่มีการพัฒนาจนเกิดแบรนด์สินค้าใหม่ ๆ ออกมาแข่งขันกัน รวมถึงยังมีการขยายตลาดของผู้บริโภคให้กว้างขวางมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะสามารถเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงดี ๆ ครบชุดได้ในราคาที่ต้องการได้ 

วันนี้ Audio2home จึงรวมเทคนิคที่คนรักเสียงดนตรีห้ามพลาด กับ 5 เทคนิคการเลือกชุดเครื่องเสียง ในราคาที่เหมาะสมกับการใช้งาน ให้สามารถเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงได้ในราคาที่เอื้อมถึงได้อย่างคุ้มค่า และปลดล็อกสกิลหูทองคำกันไปเลยง่าย ๆ ที่บ้านคุณ 

ชุดเครื่องเสียงประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

ก่อนจะไปพบกับเทคนิคในการเลือกชุดเครื่องเสียงนั้น เราขอพาไปทำความรู้จักกับชุดเครื่องเสียงกันก่อน ว่าในชุดเครื่องเสียงนั้นไปประกอบไปด้วยอุปกรณ์อะไร? และมีหน้าที่การใช้งานอย่างไรบ้าง? 

• เพาเวอร์แอมป์ (Power Amplifier) คืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ในการถอดรหัส และขยายสัญญาณเสียงจากแหล่งต้นกำเนิด (Source) ต่าง ๆ เช่น เครื่องเล่นเพลง คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ไมโครโฟน/ ไมโครโฟนไร้สาย รวมถึงเครื่องดนตรี โดยขยายให้มีเสียงดังมากขึ้น และขยายออกไปที่ตู้ลำโพงจนเป็นเสียงที่ออกมาสู่ผู้ฟัง
• ตู้ลำโพง คืออุปกรณ์ที่เป็นตัวกลางสำหรับถ่ายทอด และแสดงผลเสียงสัญญาณที่ออกมาจากแหล่งกำเนิดเสียงให้ออกมาได้เหมือนกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ซึ่งมีประเภท และระดับของความมีมิติของเสียงที่หลากหลายให้เลือกสรรตามความชอบได้มากมาย 
• เครื่องปรับแต่งสัญญาณเสียง (Digital Signal Processor) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการปรับแต่งสัญญาณเสียงในระบบดิจิทัล ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นอุปกรณ์ย่อยได้อีก เช่น Equalizer หรือ EQ, Crossover, Compressor/ Expander/ Gate/ limiter, Digital time-alignment หรือ Delay, Anti-Feedback Suppressor ซึ่งมีคุณสมบัติในการควบคุมและปรับแต่งความถี่เสียง รวมถึงยังบีบอัดระดับเสียงให้เป็นไปตามที่กำหนดได้   
• มิกเซอร์ คืออุปกรณ์ที่ช่วยผสมสัญญาณเสียงที่รับมาจากแหล่งกำเนิดจากหลายช่องทางเข้าไว้ด้วยกัน และทำการส่งสัญญาณไปหาระบบขยายเสียง
  

5 เทคนิคการเลือกชุดเครื่องเสียง ในราคาที่เหมาะสมกับการใช้งาน 

1. เลือกชุดเครื่องเสียงจากลักษณะการใช้งาน 
   การเลือกชุดเครื่องเสียงที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน จะช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงไม่ต้องเสียเงินซื้อฟังก์ชัน หรืออุปกรณ์ที่เราไม่ได้ใช้งาน ซึ่งช่วยให้ควบคุมงบประมาณ และใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น เช่น หากต้องการใช้เครื่องเสียงสำหรับกิจกรรมการดูหนัง ควรจะต้องมีตู้ลำโพงรูปแบบ Surround และซับวูฟเฟอร์เพื่อกระจายเสียงได้อย่างมีมิติ และเก็บทุกเสียงเอฟเฟกต์ภายในภาพยนตร์ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การดูหนังที่เหนือระดับ แต่ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ Digital Signal Processor และ Mixer เหมือนกับชุดเครื่องเสียงสำหรับกิจกรรมที่เน้นการฟังเสียงดนตรี และเสียงเพลง เป็นต้น
   
   
2. เลือกชุดเครื่องเสียงจากไลฟ์สไตล์ และความชอบ
   แน่นอนว่าความชอบของแต่ละคนที่แตกต่างกัน จะทำให้เลือกใช้งานที่ตอบโจทย์กับความชื่นชอบส่วนบุคคลได้แตกต่างออกไปด้วย เพราะบางคนอาจชอบฟังโทนเสียงทุ้ม บางคนอาจชอบฟังโทนเสียงเบสหนัก ๆ หรือบางอาจชอบฟังเสียงใส ๆ อีกทั้งไลฟ์สไตล์กับแนวเพลงที่ชื่นชอบนั้นก็ส่งผลต่อการเลือกชุดเครื่องเสียงที่ต่างออกไปด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น คนที่ชื่นชอบฟังเพลงคลาสสิคก็จะต้องเลือก เพาเวอร์แอมป์ที่ให้เสียงได้ชัดเจน มี SNR 100 dB ขึ้นไป และเลือกลำโพงที่ตอบสนองความถี่ได้กว้างกว่าปกติ หรือคนที่ชอบฟังเพลงร็อก ควรเลือกเพาเวอร์แอมป์ที่มีกำลังวัตต์สูง ให้สามารถรองรับระดับเสียง และไดนามิกของเสียงได้ และเลือกลำโพงที่เน้นเสียงเบสหนัก ๆ เป็นต้น  
   
   
3. เลือกชุดเครื่องเสียงจากงบประมาณที่มี 
   การกำหนดกรอบการเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงจากงบประมาณที่มีนั้น จะช่วยให้สามารถเลือกชุดเครื่องเสียงได้โดยใช้งบประมาณได้อย่างไม่บานปลาย ซึ่งจะช่วยจำกัดตัวเลือกให้แคบลงได้ อีกทั้งยังทำให้สามารถคิดพิจารณาถึงข้อดี ข้อเสีย คุณสมบัติ และลักษณะเฉพาะของชุดเครื่องเสียงแต่ละแบบได้อย่างรอบคอบ นอกจากนี้หากใช้การเปรียบเทียบคุณภาพเสียง คุณสมบัติพิเศษ และฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ ในรุ่นที่ใกล้เคียงกันจากหลายแบรนด์ รวมไปถึงอ่านบทวิจารณ์ และคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ใช้งานก็จะยิ่งช่วยให้เราสามารถเลือกชุดเครื่องเสียงภายใต้งบประมาณที่มีจำกัดได้อย่างคุ้มค่าที่สุดได้อีกด้วย
   
   
4. เลือกชุดเครื่องเสียงจากพื้นที่การใช้งาน
   อีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถกำหนดประเภทของชุดเครื่องเสียง และราคาของชุดเครื่องเสียงได้ชัดเจน คือ ขนาดพื้นที่การใช้งาน เพราะจะส่งผลต่อการเลือกซื้อขนาด และกำลังของชุดเครื่องเสียงว่าสามารถครอบคลุมพื้นที่ที่เราต้องการใช้งานได้หรือไม่ หรือชุดเครื่องเสียงที่เรากำลังเล็งเอาไว้นั้นมีขนาดใหญ่เกินไปกว่าพื้นที่ของเราหรือไม่ เนื่องจากเสียงเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนได้การเลือกขนาด และกำลังในการขยายเสียงให้เหมาะสมจะช่วยให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงได้มากกว่า เช่น ห้องที่มีความกว้าง 6-25 ตร.ม. ควรใช้ตู้ลำโพงขนาดกลาง มีดอกลำโพงขนาด 4 นิ้ว มีกำลังวัตต์ไม่ต่ำกว่า 20 วัตต์, ห้องที่มีความกว้าง 20-40 ตร.ม. ควรเลือกใช้ลำโพงขนาด 5-6 นิ้ว และมีกำลังวัตต์ 40 วัตต์ขึ้นไป และห้องที่มีขนาด 30-50 ตร.ม. ควรใช้ตู้ลำโพงขนาด 6 นิ้วขึ้นไป มีกำลังวัตต์ 120 วัตต์ขึ้นไป เป็นต้น ซึ่งหากต้องการนำไปใช้งานในพื้นที่โล่ง หรือกลางแจ้ง ก็จะมีเงื่อนไขที่ต่างกันออกไป ทำให้การเลือกซื้อให้เหมาะสม รวมถึงเงื่อนไขด้านราคาก็จะต่างออกไปด้วย
   
   
5. เลือกซื้อชุดเครื่องเสียงกับร้านที่มีความน่าเชื่อถือ และพร้อมให้คำแนะนำได้
   สิ่งสำคัญคือการเลือกชุดเครื่องเสียงที่จัดจำหน่ายโดยร้านที่น่าเชื่อถือ เพราะปัจจุบันตลาดการผลิตของเลียนแบบ หรือของที่มีคุณภาพต่ำกว่า นั้นมีค่อนข้างมาก หากจะต้องเสียเงินไปกับการซื้อของที่ไม่มีคุณภาพ หรือคุณภาพไม่ถึง ตามงบประมาณที่เสียไปอาจเป็นฝันร้ายของใครหลาย ๆ คนได้ อีกทั้งการซื้อชุดเครื่องเสียงกับร้านที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ พร้อมให้คำแนะนำได้ จะช่วยให้เลือกซื้อชุดเครื่องเสียงที่เหมาะสมกับเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในราคาที่คุ้มค่าตามกรอบงบประมาณที่เรากำหนดได้ง่าย ๆ 
   

จะเห็นได้ว่าเทคนิคการเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงทั้ง 5 ข้อนี้ สามารถช่วยพิจารณา ในการเลือกชุดเครื่องเสียง ในราคาที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ง่ายมากขึ้น แต่ในการเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงนั้นยังมีปัจจัยต้องนำมาพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออยู่อีกหลายประการ และควรจะต้องทดสอบการใช้งาน และทดสอบคุณภาพเสียงด้วยตัวเองก่อนเสมอ หากคุณกำลังมองหาร้านที่จัดจำหน่ายชุดเครื่องเสียงและอุปกรณ์ในระบบเสียงอย่างครบวงจรอยู่ 

ที่ Audio2home ตัวแทนจำหน่ายชุดเครื่องเสียงแบรนด์ดังชั้นนำมากมาย เช่น Mixer Yamaha, ลำโพง TOA, ลำโพง Bosch เราคือผู้เชี่ยวขาญเรื่องชุดเครื่องเสียงทุกชนิด ทั้งระบบเสียงประกาศ ชุดเครื่องเสียงห้องประชุม และชุดเครื่องเสียงกลางแจ้ง พร้อมอุปกรณ์เครื่องเสียงชนิดต่าง ๆ เช่น เพาเวอร์แอมป์ มิกเซอร์ ไมโครโฟนไร้สาย ไมค์ประชุม ระบบเสียงประกาศ อุปกรณ์เครื่องเสียงต่าง ๆ และอุปกรณ์โปรเจคเตอร์คุณภาพ ท่านสามารถสอบถามราคา โปรเจคเตอร์ อุปกรณ์ชุดเครื่องเสียง และเลือกชมสินค้าของเราได้ที่ www.audio2home.com

ติดต่อสอบถามรายละเอียดชุดเครื่องเสียง และอุปกรณ์โปรเจคเตอร์ชั้นนำทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ 
พร้อมสอบถามราคา โปรเจคเตอร์ และรับโปรโมชั่นสุดพิเศษจากเราได้ที่

Tel : 02-996-4400, 02-107-5018, 081-642-1188
Email : sale@thetrons.co.th